Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2565

5 อาการบ่งบอก..ว่าคุณเริ่มจะเป็น โรคประสาท

5 อาการบ่งบอก..ว่าคุณเริ่มจะเป็น โรคประสาท

ด้วยสภาวะสังคมในปัจจุบัน ทั้งรถติด สภาพอากาศแปรปรวน ไหนจะวิถีชีวิตในปัจจุบันที่ดูเหมือนเร่งรีบ และเต็มไปด้วยการแข่งขันนั้น มนุษย์เราอาจจะละเลยการใส่ใจตัวเองกันไป

เคยสังเกตตัวเองกันบ้างไหม? ว่าในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวันนั้น มีอาการผิดปกติ หรืออะไรเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนบ้าง อาทิ เช่น นอนไม่หลับ ควบคุมภาวะอารมณไม่ได้ หงุดหงิด หรือเศร้าเสียใจในเรื่องที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ลองมาดูว่ามี 5 อาการดังต่อไปนี้มั้ย? ถ้ามีนั่นคือสัญญานบ่งบอกว่าคุณ เริ่มเข้าข่ายมีอาการเป็นโรคทางประสาทแล้วล่ะ! เช็คด่วน!

5 อาการบ่งบอก..ว่าคุณเริ่มเป็นโรคประสาท

1. ภาวะอารมณ์ กับสิ่งแวดล้อมไม่สัมพันธ์กัน

อาทิ เช่น เรื่องที่ควรจะเศร้าเสียใจ แต่คุณกลับหัวเราะ รู้สึกตลก ในทางกลับกันเรื่องที่ควรมีความสุข สนุกสนาน คุณกลับรู้สึกว่าเป็นทุกข์ ร้องไห้ ฟูมฟาย หรืออาจจะรู้สึกไม่ยินดี ยินร้าย กับทุกเรื่อง

2. กลัวต่อสิ่งต่างๆ

ที่ยังไม่เกิดจนมีผลต่อระบบร่างกาย ชอบนึกคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ย้ำคิดย้ำทำ วิตกไปหมดทุกอย่าง กลัวโน่นกลัวนี่ กลัวสอบไม่ได้ กลัวไม่มีที่เรียน กลัวความมืด หากใครมีอาการกลัวมากๆ อาจส่งผลต่อระบบของร่างกายด้วย เช่น คลื่นไส้เวียนหัว หายใจไม่ทั่วท้อง หรืออาจจะเป็นลมจนหมดสติ

3. บุคลิกภาพ และพฤติกรรม เปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน

ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนที่มีนิสัยรักสะอาด แต่ต่อมากลับทำตัวสกปรกโสโครก พูดจาเพ้อเจ้อไม่รู้เรื่อง

4.ได้ยินเสียงแว่ว

รู้สึกตัวเองไร้ค่าคุณรู้สึกไปเองว่ามีคนคอยจ้องมอง มีคนว่าร้าย หรือได้ยินเสียงแว่วคนพูดอยู่ตลอด รู้สึกอยากเก็บตัวไม่อยากพบเจอผู้คน ฟุ้งซ่าน คิดมาก ส่งผลให้นอนไม่ค่อยหลับ

5. คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ

มีสัมผัสพิเศษต่างๆบางรายคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษเหนือธรรมชาติ มีสัมผัสพิเศษ เห็นภาพอีกมิติ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นคือภาพหลอนที่เกิดมาจากระบบประสาทที่ใกล้กำลังจะเสียสตินั่นเอง

หากพบว่าใกล้เคียงอาการดังกล่าว ลองค่อยๆ ทบทวนทีละข้อ หาเวลาพักผ่อนบ้างก็ดี หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไปปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์ดีที่สุด

การไปพบหมอจิตแพทย์นั้นไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นบ้า หรือเป็นโรคประสาทนะ! คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าอย่างนั้น จริงๆ แล้วคนเราควรไปหาหมอเพื่อเช็คร่างกายเป็นประจำค่ะ ไม่ว่าจะหมอทางด้านจิตแพทย์ สรีระ สูตินารี ฯล

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565

คนเราจะไขว่คว้าหาความสุขกันอย่างไร

คนเราจะไขว่คว้าหาความสุขกันอย่างไร 

How to find happiness

จะไขว่คว้าหาความสุขกันอย่างไร 
คนเราจะแสวงหาความสุขในชีวิตได้หลายทางหลายรูปแบบ ซึ่งหากจะแบ่งลักษณะที่มาของ ความสุขกันแล้ว อาจจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ๒ ประเภท ได้แก่

ประการแรก ความสุขที่ต้องซื้อหาด้วยเงิน เช่น ความสุขจากการท่องเที่ยว การกินอาหารตามร้านที่มีบรรยาการดี ๆ การช้อบปิ้ง (รวมถึงการซื้อของที่ชอบสะสม อย่างเช่น เครื่องเพชร เครื่องทอง เครื่องเงิน ของเก่า หรือการซื้อรถยี่ห้อใหม่ ๆ ของนักเล่นรถทั้งหลาย) การใช้เงินซื้อความสะดวกสบาย (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องผ่อนแรงของแม่บ้าน) การดูหนังดูละคร คอนเสิร์ต การซื้อทีวีมาดู ซื้อวิทยุมาฟังเป็นต้น

ประการที่สอง ความสุขที่ไม่ต้องซื้อหาด้วยเงิน เช่น การมีสุขภาพแข็งแรง การอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น สามชิกรักใคร่อาทรซึ่งกันและกัน การได้ทำงานที่ใจรัก การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี การไม่เป็นหนี้ การประสบความสำเร็จ ผลทางใจที่เกิดจาการทำบุญ การช่วยเหลือเพื่อมนุษย์หรือสังคม การปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นความสุขทางใจที่สมบูรณ์กว่า

คนที่มีสุขภาพจิตดีมักจะสามารถค้นพบความสุขใจจากสิ่งรอบตัวได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทอง เพราะพวกเขารู้จักแสวงหาความสุขด้วยการ

๑. ทำชีวิตให้ง่ายและรู้จักยืดหยุ่น ตัดความฟุ่มเฟือย กรอบชีวิตที่เคร่งครัดบางอย่างออกไป เลิกแบบหัวโขนตลอดเวลาเพราะมีแต่จะทำให้หนักโดยใช่เหตุ รู้จักปรับเป้าหมายในชีวิตให้เหมาะสม การตั้งเป้าหมายไว้สูง ถ้าไปไม่ถึงก็เป็นทุกข์ ให้รู้จักลดเป้าหมายในชีวิตลงบ้าง ต่อเมื่อทำได้จึงค่อยเขยิบจุดหมายให้สูงขั้นเพื่อพัฒนาตนเอง

คนที่ชอบใช้ชีวิตง่าย ๆ รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่เอาจริงเองจังหรือติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป มักจะเป็นคนที่มักน้อยและให้อภัยคนได้ง่าย ซึ่ง “ ความอยาก ” และ “ ความโลภ ” ย่อมนำไปสู่ความทุกข์ และ “ การสะสมความเคียดแค้นย่อมเกิดภัย แต่การสะสมความรักใคร่ย่อมเกิดสุข ”

๒. ความสามารถปรับใจกับสถานการณ์ต่าง ๆ รอบตัวได้ รู้จักมองหาจุดดีในจุดเสีย มองหาจุดเด่นในจุดด้อย มองหาความขบขันในความเครียด มองหาความสนุกในความเหนื่อย หรือเบื่อหน่าย เช่น การเมืองเครียดนักก็อ่านการ์ตูนล้อการเมืองให้เกิดอารมณ์ขัน ถ้างานยุ่งนักหรือเรียนหนักก็พยายาม ทำสิ่งที่ “ ยุ่ง ” และ “ หนัก ” ให้ “ สนุก ” เสีย หรือถึงจะจนเงินแต่ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในครอบครัวได้ (จนเงินแต่ไม่จนรัก)

๓. ให้ความสนใจและเห็นใจในความทุกข์ของผู้อื่น จะทำให้ไม่หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง เพราะยิ่งหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้มองเห็นความทุกข์และสงสารตัวเองมากขึ้นเท่านั้น การมองเห็นความทุกข์ของคนอื่นจะช่วยทำให้ลดความเห็นแก่ตัวลง และมีความอดทนต่อความทุกข์ของตนเองได้มากขึ้น

๔. สร้างบรรยากาศรอบตัวให้มีความสุข ด้วยการสร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในบ้าน สร้างเสียงหัวเราะในที่ทำงาน มอบไมตรีจิตมิตรภาพและความหวังดีให้แก่คนรอบข้างในสังคม

ความสุขและความทุกข์อยู่ที่ใจของแต่ละคน ดังคำกล่าวที่ว่า “ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่

ในใจ ” ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะไขว่คว้าหาสุขหรือหาทุกข์มาใส่ตัว เพียงแต่ท่าน

- อย่ายอมเป็นทาสของวัตถุ หรือให้วัตถุมาเป็นนาย และ

- อย่ายอมเป็นทาสของอารมณ์ หรือให้อารมณ์มาเป็นนาย  ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมนั่นเอง

สุดท้ายนี้ผมก็มีคลิปที่ทำขึ้นมาพร้อมทั้งบทเพลงประกอบฟังเพลินๆครับมันอาจจะเป็นคลิปที่มีทั้งความสุขและความเหงาว้าเหว่ผสมกลมกลืนกันไป

days without you

How to find happiness...จะไขว่คว้าหาความสุขกันอย่างไร...

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565

เปิดเผยหลักฐานล่าสุด ‘ฟอสซิลขาหลังที่สมบูรณ์’ ให้เบาะแสวินาทีสุดท้ายก่อนอุกกาบาตรจะชนโลก

เปิดเผยหลักฐานล่าสุด ‘ฟอสซิลขาหลังที่สมบูรณ์’ ให้เบาะแสวินาทีสุดท้ายก่อนอุกกาบาตรจะชนโลก

นักบรรพชีวินวิทยาได้เปิดเผยฟอสซิลกระดูกขาหลังที่สมบูรณ์ของไดโนเสาร์กินพืช มันมีขาที่มีสภาพสมบูรณ์ และยังคงมีผิวหนังในสภาพดีมากจนน่าตกใจ การค้นพบที่น่าทึ่งที่เกิดขึ้นจากแหล่งฟอสซิล Tanis ในรัฐนอร์ทดาโคตาของสหรัฐอเมริกา

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าไดโนเสาร์จาก Tanis ตัวนี้ตายและถูกฝังแทบจะทันทีในวันที่อุกกาบาตรชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน และยังเป็นวันสิ้นสุดยุคของไดโนเสาร์ ก่อนหน้านั้นมีการพบซากไดโนเสาร์จำนวนน้อยลงในช่วง 2-3 พันปีสุดท้ายก่อนการพุ่งชนโลกของอุกกาบาตร แต่การค้นพบตัวอย่างที่มีสภาพสมบูรณ์แบบนี้พบได้น้อยมาก

และที่น่าแปลกใจคือที่ใกล้ๆ ซากขานั้นมีซากปลาที่คาดว่ามาจากทะเลตกอยู่ข้างมันด้วย และยังมีฟอสซิลเต่าทะเลที่เสียบอยู่กับต้นไม้ ซากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในรังของมัน เศษผิวหนังของไทรเซอราทอป ตัวอ่อนของพวกเทอโรซอร์ที่ยังอยู่ในไข่ และเศษของอุกกาบาตรเอง

ด้วยรายละเอียดที่น่าตกใจนี้ มันจำลองสภาพแวดล้อมช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนอุกกาบาตรจะชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ให้คุณได้เห็นอีกครั้ง” Robert DePalma จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้นำการขุดกล่าว

ในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าหินอุกกาบาตรกว้างประมาณ 12 กม. ชนโลกของเราจนทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ถึงแม้ Tanis จะห่างจากคาบสมุทรยูคาทานซึ่งเป็นจุดพุ่งชนมากถึง 3,000 กิโลเมตร แต่พลังทำลายล้างกลับไม่ได้ลดลงเลย

แหล่งฟอสซิสที่รัฐนอร์ทดาโคตา เป็นพื้นที่ที่ดูวุ่นวายและหายนะมากๆ .. ซากของสัตว์และพืชดูเหมือนจะถูกม้วนรวมกันในตะกอนโดยคลื่นน้ำ เราไม่สามารถจินตนาการได้ถึงความแรงของคลื่นที่กวาดสิ่งมีชีวิตบนบกและในน้ำจนมารวมกันได้ขนาดนี้

ฟอสซิลของปลาสเตอร์เจียนและปลาฉลามปากเป็ดเป็นกุญแจสำคัญ พวกมันมีอนุภาคขนาดเล็กติดอยู่ในเหงือก อนุภาคเหล่านี้เป็นทรงกลมของหินหลอมเหลวที่ถูกผลักออกจากแรงกระแทกที่ตกลงมาบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ปลาจะหายใจเอาอนุภาคพวกนี้เข้าไปเมื่ออนุภาคพวกนี้อยู่ในน้ำ

และนอกจากนี้ยังมีการตรวจพบแร่ธาตุที่มีจากนอกโลกอีกด้วย “เมื่อเราสังเกตเห็นว่ามีสิ่งเจือปน อยู่ในชั้นตะกอนเหล่านี้ เราทำการวิเคราะห์ทางเคมีเหล่านี้ที่Diamond X-ray synchrotronใกล้กับ อ็อกซ์ฟอร์ด” Prof.Phil Manning ซึ่งเป็นหัวหน้างานระดับปริญญาเอกของ DePalma ที่แมนเชสเตอร์อธิบาย

“เราสามารถแยกเคมีออกจากกันและระบุองค์ประกอบของวัสดุนั้นได้ จากการศึกษานั้นชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเรากำลังดูชิ้นส่วนของของดาวเคราะห์น้อยที่สิ้นยุคของไดโนเสาร์”

การมีอยู่ของแหล่งขุดค้น Tanis และการอ้างสิทธิ์ในเรื่องนี้ ปรากฏครั้งแรกในที่สาธารณะในปี 2019 ซึ่งทำให้ข้อโต้แย้งในขณะนั้น

วิทยาศาสตร์มักเรียกร้องให้นำเสนอการค้นพบใหม่ในหน้าวารสารวิชาการ ขณะนี้มีการเผยแพร่เอกสารที่ผ่านการตรวจสอบสองสามฉบับแล้ว และทีมขุดค้นพยามหาข้อมูลอีกมากในขณะที่ต้องทำงานผ่านกระบวนการสกัด จัดเตรียม และอธิบายฟอสซิลที่ค้นพบอย่างพิถีพิถัน

Prof. Paul Barrett จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอนดอนศึกษาฟอสซิลขาชิ้นนี้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ออร์นิธิเชียน (ส่วนใหญ่กินพืช)

“มันคือเทสเซโลซอรัส (Thescelosaurus.) เราไม่เคยมีประวัติว่าผิวหนังของมันเป็นอย่างไร จากฟอสซิลนี้สรุปว่าพวกมันมีเกล็ดเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน และไม่มีขนแบบนกเหมือนไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็กหลายชนิด

“นี่ดูเหมือนสัตว์ที่ขาเพิ่งถูกฉีกออกอย่างรวดเร็ว ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับโรคที่ขา ไม่มีร่องรอยพยาธิ ไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย เช่น รอยกัดหรือชิ้นส่วนที่หายไป”

“ดังนั้น ความคิดที่ดีที่สุดที่เรามีก็คือ นี่คือสัตว์ที่ตายแทบจะในทันที”

คำถามสำคัญคือว่าไดโนเสาร์ตัวนี้ตายในวันที่อุกกาบาตรพุ่งชนอันเป็นผลโดยตรงจากภัยพิบัติที่ตามมาหรือไม่ ทีมงานที่ Tanis คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งของขาในตะกอนที่แหล่งขุด

แต่ Prof. Steve Brusatte จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ กล่าวว่าเขากำลังสงสัยอยู่ในขณะนี้

เขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาภายนอกของ BBC อีกคน เขาต้องการเห็นข้อโต้แย้งที่นำเสนอในบทความที่มีการตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์คนอื่น และต้องการให้นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรพชีวินวิทยา ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นพิเศษเข้าไปที่ไซต์เพื่อทำการประเมินอย่างอิสระ

Prof. Brusatte กล่าวว่าเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น สัตว์ที่ตายก่อนการพุ่งชนจะถูกขุดขึ้นมาโดยความรุนแรงในวันนั้น แล้วฝังใหม่ในลักษณะที่ทำให้การตายของพวกมันปรากฏพร้อมกัน

สำหรับปลาที่มีเศษอุกาบาตรในเหงือก นับว่าเป็นหลักฐานชั้นดี แต่สำหรับสัตว์อื่นนั้น ยังต้องการหลักฐานอีกมาก” เขากล่าว

“สำหรับการค้นพบบางอย่าง ถึงมันอาจจะไม่เกี่ยวแต่ก็สำคัญมาก อย่างเช่นไข่ที่มีลูกเทอโรซอร์อยู่ข้างในนั้นหายากมาก ไม่เคยมีการค้นพบในอเมริกาเหนือมาก่อน มันไม่ใช่ทั้งหมดที่จะต้องเกี่ยวกับอุกกาบาตร” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไข่เทอโรซอร์ตัวนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง

ด้วยเทคโนโลยีเอ็กซ์เรย์ที่ทันสมัย ทำให้สามารถระบุคุณสมบัติทางเคมีและคุณสมบัติของเปลือกไข่ได้ มีแนวโน้มว่าจะเป็นผิวแบบเหนียวมากกว่าแข็ง ซึ่งอาจบ่งบอกว่าแม่ของเทอโรซอร์ฝังไข่ในทรายหรือตะกอนเหมือนเต่า

ด้วยการเอ็กซ์เรย์เพื่อแยกกระดูกของลูกเทอโรซอร์ที่อยู่ภายในออกมา เพื่อพิมพ์และสร้างสิ่งที่สัตว์จะมีหน้าตาขึ้นมาใหม่ DePalma ได้ทำสิ่งนี้แล้ว .. เจ้าเทอโรซอร์น้อยตัวนี้น่าจะเป็นพวก อัซห์ดาร์คิด (Azhdarchid) ซึ่งเป็นกลุ่มของสัตว์เลื้อยคลานบินได้ซึ่งมีปีกที่โตเต็มวัยมีปีกกว้างได้มากถึง 10 เมตร และนี่คือเรื่องราวที่ค้นพบในตอนนี้

รายการบล็อกของฉัน