Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ข้อมูลใหม่ฉีกตำราเดิม ชี้คนแพร่เชื้อกาฬโรคไม่ใช่หนู


🐹เดิมเชื่อกันว่าหนูเป็นตัวการแพร่เชื้อกาฬโรคในยุโรปยุคกลาง จนทำให้มีผู้คนล้มตายกันหลายล้านคน

ผลการศึกษาล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยออสโลของนอร์เวย์และมหาวิทยาลัยเฟอร์ราราของอิตาลี ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ PNAS ระบุว่า
พบหลักฐานที่ชี้ว่าความเชื่อเรื่องหนูเป็นตัวการแพร่เชื้อกาฬโรคในยุโรปยุคกลางนั้นไม่เป็นความจริง แต่มนุษย์ด้วยกันต่างหากคือพาหะของโรคที่อันตรายยิ่งกว่า โดยกาฬโรคทำให้มีผู้คนล้มตายกันหลายล้านคนในช่วงศตวรรษที่ 14 เรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ 19


ก่อนหน้านี้วงการวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์การแพทย์เชื่อว่า หมัดที่อาศัยอยู่กับตัวหนูสามารถกัดและแพร่เชื้อกาฬโรคให้กับคน จนเป็นเหตุให้เกิดโรคระบาดแพร่ไปอย่างรวดเร็ว คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปถึง 25 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรยุโรประหว่างปี 1347-1351

แต่อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยผู้เสนอผลการศึกษาล่าสุดได้ตรวจสอบข้อสันนิษฐานดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลเรื่องการระบาดและการตายของประชากรในเมือง 9 แห่งของยุโรป ที่มีการจดบันทึกไว้เป็นอย่างดีมาวิเคราะห์ จากนั้นได้สร้างแบบจำลองพลวัตรของการระบาดที่เป็นไปได้ 
3 แบบ คือการระบาดจากหนู การระบาดด้วยการแพร่เชื้อทางอากาศ และการระบาดจากตัวหมัดและเหาที่อยู่ตามร่างกายและเสื้อผ้าของมนุษย์ ขึ้นมาใช้ทดสอบข้อมูลเหล่านี้


หนูดำ (Rattus rattus) ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการแพร่เชื้อกาฬโรคมาหลายร้อยปี
ผลการทดสอบข้อมูลที่บันทึกไว้กับแบบจำลองทั้ง 3 แบบพบว่า มีข้อมูลของเมืองถึง 7 ใน 9 แห่ง ที่สอดรับกับวงจรการระบาดจากตัวหมัดและเหาที่อยู่ตามร่างกายและเสื้อผ้าของมนุษย์เอง..

ศาสตราจารย์นีลส์ สเตนเซธ ผู้นำคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยออสโลบอกว่า การติดต่อผ่านปรสิตในมนุษย์จะทำให้เชื้อกาฬโรคระบาดไปได้อย่างรวดเร็วเป็นวงกว้างมากที่สุด เพราะเป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คนโดยตรง ในขณะที่การระบาดจากหมัดหนูจะช้ากว่า เพราะเชื้อต้องไปใช้เวลาผ่านวงจรชีวิตของหนูมาก่อนที่จะมาถึงคน

ผลการวิจัยยังชี้ว่า การป้องกันเหตุกาฬโรคระบาดในอนาคตขึ้นอยู่กับการรักษาสุขอนามัยเป็นสำคัญ รวมทั้งขึ้นอยู่กับการกักกันควบคุมผู้ติดเชื้อ ไม่ให้เที่ยวออกไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่นในที่สาธารณะ "หากคุณรู้สึกไม่สบาย ก็ควรจะอยู่กับบ้าน" ศาสตราจารย์สเตนเซธกล่าว
ปัจจุบันยังคงมีการระบาดของกาฬโรคอยู่บ้างในบางพื้นที่ของภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และบางส่วนของทวีปอเมริกา โดยยังคงมีเชื้อกาฬโรคหลงเหลืออยู่ในประชากรหนูแถบนั้น 


องค์การอนามัยโลกระบุว่า ระหว่างปี 2005-2010 มีรายงานผู้ติดเชื้อกาฬโรค 2,348 รายจากทั่วโลก และมีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งหมด 584 ราย

👉Happy shoppee here
สร้างสรรค์ อิสระเสรีภาพ 
รวบรวมค้นหาสินค้าดีๆจาก shoppee เพื่อคุณ เข้ามาเลือกดูสินค้าได้เลยครับ


เมื่อปี 2001 มีการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อกาฬโรค โดยใช้เชื้อที่ได้จากสัตวแพทย์ผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯเมื่อปี 1992 หลังติดเชื้อกาฬโรคจากแมวที่จามใส่เขา หลังเขาพยายามช่วยมันขึ้นมาจากใต้ถุนบ้าน

นิยามคำว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว


คำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว


จากภาวะวุ่นวายใจหลายด้าน ทั้งปัญหา อุปสรรค ที่กระหน่ำซำเติมมาเป็นระยะๆ ก็เลยมุ่งหาธรรมะ เป็นเครื่องคุ้มครองใจไม่ให้หวั่นไหวได้รับความรู้สึกนี้ที่เกิดขึ้นกับคำว่า ทำดีได้ดี ทำชัวได้ชั่วดังนี้

ทำดี” ก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี
ทำชั่ว” ก็คือ คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี
ได้ดี” ก็คือ ความสุขใจ สบายใจ
ได้ชั่ว” ก็คือ ไม่สบายใจ ทุกข์ใจ

อย่างน้อยคำจำกัดความนี้ก็บำรุงรักษาจิตใจได้อย่างดี
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ปัจจุบันคงไม่ค่อยได้ยินกันแล้ว เดี๋ยวนี้คงเป็น "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป"คำพูดนี้อาจจะออกมาจากความท้อแท้หรือน้อยเนื้อต่ำใจ ของคนที่ทำดีแล้วไม่ได้ดี เห็นแต่คนที่ทำไม่ดีกลับได้ดี


1.ทำดี แล้วจะเอาอะไรมาวัดการทำความดี ในความคิดเราน่าจะเป็น
"ความสมควร ความเหมาะสม ที่สังคมยอมรับ"
(คนส่วนใหญ่)ที่ทำแล้วเกิดผลดีต่อคนอื่น ทำให้แยกได้ว่า
-คนดี คือคนที่ทำให้เกิดผลดีต่อส่วนรวม ไม่เห็นแก่ตัว ทำให้เกิดคุณค่าต่อคนอื่น
-คนไม่ดี คือคนที่ทำให้เกิดผลไม่ดีต่อส่วนรวม เห็นแก่ตัว ทำความเสียหายให้คนอื่น


2.ได้ดี เป็นอย่างไร เป็นการทำอะไรสักอย่างแล้วได้ผลตอบกลับมาที่ตนเอง แล้วทำให้ตนเองรู้สึกดี
-คนที่ได้ดี คือคนที่ได้รับผลดีต่อตนเอง ให้ตนเองมีคุณค่ามากขึ้น
-คนที่ไม่ได้ดี คือคนที่ได้รับผลที่ไม่ดีต่อตนเอง หรือ ไม่ได้ตามที่ตนเองคาดหวัง

ทำให้ได้ข้อสังเกตุว่า การทำดีได้ดี เป็น "การกระทำให้ผู้อื่นได้รับสิ่งดีๆและเราจะได้รับความรู้สึกดีๆ"
แต่เราจะพยายามมองในด้านตัวเราเองมากเกินไป คาดหวังเกินไป เราทำให้คนอื่นดีแต่สิ่งที่เราได้รับกลับมาไม่เป็นดั่งที่เราหวังไว้ เราลืมไปหรือเปล่าว่าเราได้อะไร สิ่งนั้นคือความรู้สึกดีๆ ความสุขที่เราได้ทำให้ผู้อื่นสิ่งๆนี้เป็นสิ่งที่วิเศษที่คนอื่นจะมองไม่ เห็น เราจะรับรู้ที่ตัวเราเองเท่านั้น เปลี่ยนความคิดบ้างอย่าไปหวังที่วัตถุมากเกินไป "เราลองทำอะไรโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนสิ" อาจจะพูดแบบนี้ไม่ถูกเพราะทุกอย่างมีเหตุและผลแล้วอะไรล่ะ?ที่เป็นผล ผลนั้นก็คือ ความรู้สึกดีๆที่เราได้รับนั้นเอง

อย่าท้อถอยกับการทำความดี อย่างน้อยเราก็ได้ทำ อย่างน้อยเราก็รู้สึกดี ถึงผลที่เราคาดหวังไว้จะไม่เป็นไปตามนั้นแต่บางทีเราก็คิดนะ เช่น เราขยันตั้งใจทำงาน ต้องการให้งานออกมาดี แต่กลับมีปัญหาต่างๆ มองเพื่อนที่ขี้เกียจไม่ค่อยทำงาน กลับได้รับการเอาใจใส่อย่างดี งานราบรื่น แต่เราต้องดึงจิตใจของเรากลับมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่หลุดจากความรู้สึกไม่ดีแบบนั้น ด้วยการคิดว่า"อย่างน้อยเราก็ได้ทำ อย่างน้อยเราก็รู้สึกดี "จะยังไงเราก็จะพยายามทำดีต่อไป ต้องใช้คำว่าพยายามให้มาก เพราะความพยายามเป็นการบ่งบอกถึงความพร้อม ความตั้งใจ ที่จะทำ


Happy shoppee here
สร้างสรรค์ อิสระเสรีภาพ 
รวบรวมค้นหาสินค้าดีๆเพื่อคุณ

บางคนจะบอกว่าเริ่มทำดีอย่างไร หลักง่ายๆ
1.เราตั้งเป้าหมายไว้คือ "ทำความดี"
2.จะไปถึงได้ไง เราก็ต้อง"พยายาม"ก่อน
3.เมื่อเรารู้ว่าเราต้องพยายามทำ เราก็จะเริ่มเอง

คำว่า "อุตส่าห์" มาจาก อุตสาหะ หรือพยายาม เดี๋ยวนี้คนจะแปลความหมายของคนพูดไปผิดๆ ไปเป็นการทวงบุญคุณ เช่น ผมอุตสาห์มารอคุณเลิกงาน อีกฝ่ายจะคิดว่าลำบากนักก็ไม่ต้องมาสิ แต่ไม่ยอมมองถึงว่าคนพูดต้องการสื่อถึงอะไร เขาต้องการจะบอกว่า "เขาทนความลำบากนี้เพื่อคุณได้นะ" ความหมายแตกต่างกันเลย ลองมองคนอื่นในแง่ดีบ้าง จะทำให้อะไรๆดีขึ้น แล้วจะทำให้คำที่ว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" ลดน้อยลงไป...

เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย musa

รายการบล็อกของฉัน