Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

ชายชาวจีนที่โหมกระหน่ำออกกำลังกาย 8 ชั่วโมงต่อวันนาน 20 ปี ตอนนี้เดินไม่ได้

ชายชาวจีนที่โหมกระหน่ำออกกำลังกาย 8 ชั่วโมงต่อวันนาน 20 ปี ตอนนี้เดินไม่ได้

นี่เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้รู้ว่าอย่าทำอะไรมากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี

โดยเฉพาะการออกกำลังกายเราต้องดูอายุเราด้วยว่าเราแก่ชราขนาดไหนแล้ว ถ้าเราโหมออกกำลังกายมากเกินไปเกินลิมิตของร่างกายแล้วมันก็จะกลายเป็นเหมือนชายชาวจีนคนนี้ได้นะครับ

ชายชาวจีนที่ออกกำลังกาย 8 ชั่วโมงต่อวันนาน 20 ปี ตอนนี้เดินไม่ได้กลายเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาทั้งๆที่ร่างกายแข็งแรงออกกำลังกายมานานถึง 20 ปีแต่ต้องมีเหตุอันเป็นไปเพราะว่าอะไรที่มากเกินไปมันก็จะเป็นโทษแก่ร่างกายเหมือนกัน

การออกกำลังกายถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่อะไรที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้เช่นกัน

นี่คือเรื่องราวของชายชาวจีนวัย 60 ปี จากเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนานที่หันมาออกกำลังกายอย่างจริงจังตอนอายุ 40 ต้น ๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มหักโหมออกกำลังกายอย่างหนักจนปัจจุบันนี้ เขากำลังจะเดินไม่ได้อีกต่อไป

จากรายงานระบุว่า ชายที่ไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งตอนเช้าในการเดิน วิ่ง และดึงข้อ จากนั้นก็ว่ายน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง ซิตอัป 800 ครั้งต่อวัน วิดพื้นอีกหลายร้อยครั้ง รวมถึงเล่นแบตมินตันอีกด้วย

ในวัย 60 ปี ร่างกายของเขาก็เริ่มยอมแพ้ และมีอาการปวดข้ออย่างรุนแรง หัวเข่าและข้อศอกของเขาเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ จนถึงจุดที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกต่อไป

ครอบครัวของเขาตัดสินใจพาชายผู้คลั่งไคล้ในการออกกำลังกายรายนี้ไปยังโรงพยาบาลข้อและกระดูกลั่วหยาง และแพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคข้อเสื่อมขั้นรุนแรง ทั้งหมดเกิดจากการที่เขาออกกำลังกายมากเกินไป

ในขณะที่แพทย์จากโรงพยาบาลได้ออกมาเตือนว่า ผู้คนควรเริ่มต้นออกกำลังกายจากง่าย ๆ และหากีฬาที่ตนเองชอบ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ประมาณ 3 ถึง 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด

อะไรมากเกินไปก็ไม่ดีหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีเดินสายกลางๆเป็นดีที่สุดนะครับ

👉🏿ส่วนคลิปด้านล่างนี้เป็นท่าออกกำลังกายของคนชราสูงวัย ดูเอาไว้เป็นตัวอย่างและลองหัดทำดูได้นะครับ สำหรับคนแก่ๆที่เข้าวัยชราไม้ใกล้ฝั่ง อย่าไปหักโหมออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งเหมือนหนุ่มๆเขา เพราะว่าร่างกายเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว คนแก่ชรามีแต่วันเสื่อมถอยแก่ชรารอวันตายเท่านั้นเอง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง อารมณ์สดใสร่าเริงทุกวันเป็นดีที่สุด

 

ช่างตัดเสื้อชาวญี่ปุ่นกลายเป็นไวรัลใน TikTok หลังใส่สูทเต็มยศ ปีนขึ้นไปพิชิตยอดเขาสูงที่สุดในมาเลเซีย

ช่างตัดเสื้อชาวญี่ปุ่นกลายเป็นไวรัลใน TikTok หลังใส่สูทเต็มยศ  ปีนขึ้นไปพิชิตยอดเขาสูงที่สุดในมาเลเซีย

ตอนนี้เลยเป็นกระแสดังใน tiktok แล้วเป็นอะไรที่ตื่นเต้นแปลกใหม่สำหรับผู้ที่จะสร้างกระสร้างภาพแสดงพิชิตยอดเขาแบบแปลกๆ หา content แปลกๆใหม่ๆมานำเสนอมันเป็นอะไรที่สร้างสรรค์และน่าชื่นชมในความคิดของเขามากๆเลย

“นี่แหละคือนิยามของคำว่าทำงานหนัก” ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งคอมเมนต์

ช่างตัดเสื้อชาวญี่ปุ่นกลายเป็นไวรัลใน TikTok หลังใส่สูทเต็มยศ พร้อมรองเท้าคัทชูและกระเป๋าเอกสาร ปีนขึ้นไปพิชิตยอดเขาสูงที่สุดในมาเลเซีย เพื่อพิสูจน์ว่าแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองนั้นคุณภาพดีขนาดไหน

สัปดาห์ที่แล้ว โนบุทากะ ซาดะ (Nobutaka Sada) วัย 49 ปี ได้ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาคินาบาลู ซึ่งมีความสูง 4,095 เมตรจากระดับน้ำทะเลในชุทสูทสีฟ้าของแบรนด์ตัวเอง ทำเอาบรรดานักปีนเขาและชาวเน็ตถึงกับอึ้งในความ “สุดจัด” ของชายจากแดนอาทิตย์อุทัยคนนี้

จากคลิป TikTok ที่เพื่อนนักปีนเขาอีกคนถ่ายไว้ ซาดะเดินขึ้นไปตามเส้นทางแคบๆ บนเขาเช่นเดียวกับนักปีนเขาคนอื่นๆ แต่ในขณะที่คนอื่นต้องใช้ไม้เท้าปีนเขาเพื่อประคองตัว เขากลับจับเพียงสายคล้องกระเป๋าเอกสาร และเดินขึ้นสู่ยอดเขาด้วยความมั่นใจ

ก่อนหน้านี้ ซาดะเคยใส่สูทไปตกปลา เล่นสกี ขี่จักรยาน และดำน้ำดูปลามาแล้ว ซึ่งทุกครั้งเขาจะถ่ายคลิปบันทึกประสบการณ์เอามาแชร์ไว้ในช่อง YouTube ส่วนตัว

หลังจากพิชิตยอดเขาสำเร็จ ซาดะได้แชร์ภาพถ่ายตนเองพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามลงในเฟซบุ๊ก และยังเล่าด้วยว่า เขาได้นอนค้างคืนในกระท่อมบนเขา ก่อนจะปีนป่ายขึ้นเขาท่ามกลางแสงดาว และไปถึงยอดเขาทันดูพระอาทิตย์ขึ้นพอดี

“เราปีนขึ้นไปสู่ระดับความสูงที่แตกต่างถึง 2,300 เมตร ท่ามกลางภูมิอากาศที่ร้อนชื้นและมีฝนตก แต่สูทสั่งตัดพิเศษของแบรนด์ SADA ยังคงเนี้ยบพอที่จะทำให้ผมเข้าประชุมต่อได้ทันที! สูทสั่งตัดพิเศษของ SADA ปลอดภัยสำหรับการปีนเขาคินาบาลู” เขากล่าว

ระหว่างเดินทางกลับญี่ปุ่น ชาวเน็ตคนหนึ่งซึ่งบังเอิญได้ดูคลิป TikTok ได้เข้าไปทักทาย ซาดะ ที่สนามบิน และพบว่าเขาเดินทางกลับบ้านในชุดสูทสีน้ำเงินตัวเดิม

วิธีโปรโมตแบรนด์ของช่างตัดเสื้อชาวญี่ปุ่นรายนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตจำนวนมาก และมีลูกค้าบางคนเริ่มเข้าไปสอบถามว่าจะหาซื้อสูทแบรนด์นี้ได้ที่ไหน และมีบริการส่งต่างประเทศด้วยหรือไม่

จริงๆหรือนี่ นี้คือกระเป๋าหินอุกกาบาตจากนอกโลกที่มีราคาสูงถึง 1.4 ล้าน

จริงๆหรือนี่ นี้คือกระเป๋าหินอุกกาบาตจากนอกโลกที่มีราคาสูงถึง 1.4 ล้าน

มนุษย์เรานี่ก็มีความคิดแปลกๆนะครับเช่นเช่นตัวอย่างกระเป๋าหินอุกกาบาตจากนอกโลกใบนี้ที่ก็บอกว่าตัวกระเป๋าถือที่ทำมาจาก “หินอุกกาบาต” รุ่นลิมิเต็ดที่เป็นงานแกะสลักด้วยมือจากหินอุกกาบาตที่ตกลงมาบนโลกเมื่อหลายหมื่นปีก่อน

บางทีความคิดของคนเรานี่มันก็แปลกจริงๆนะครับมันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนสำหรับมหาเศรษฐีที่จะซื้อกระเป๋าหินอุกกาบาตนี้เขาก็คงคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจและตื่นเต้นแต่สำหรับคนจนๆแล้วกระเป๋าหินอุกกาบาตใบนี้คงไม่มีประโยชน์แน่นอน

😂แล้วอีกประเด็นหนึ่งไม่รู้ว่ามันจะเป็นอุกกาบาตจริงหรืออุกกาบาตปลอมก็ไม่ทราบได้นะครับ

Coperni แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูจากฝรั่งเศสเพิ่งเปิดตัวกระเป๋าถือที่ทำมาจาก “หินอุกกาบาต” รุ่นลิมิเต็ดที่เป็นงานแกะสลักด้วยมือจากหินอุกกาบาตที่ตกลงมาบนโลกเมื่อหลายหมื่นปีก่อน และคุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 40,000 ยูโร หรือประมาณ 1.47 ล้านบาท

ในการเปิดตัวคอลเลกชัน Fall/Winter 23 ที่ผ่านมา Coperni ได้สร้างกระเป๋าถือที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นการผสมผสานระหว่างโบราณคดี งานออกแบบ ศิลปะคลาสสิกและบรรพศิลป์ ให้ออกมาเป็นกระเป๋าถือที่มีชื่อว่า Mini Meteorite Swipe Bag โดยมีรูปร่างกระเป๋าถือทรงหยดน้ำที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์

ส่วนหินอุกกาบาตที่นำมาทำเป็นกระเป๋าในภาพมีอายุประมาณ 55,000 ปี

ขนาดของกระเป๋าใบนี้คือ 9 x 12 x 23 เซนติเมตร แต่นั่นไม่น่ากังวลเท่ากับน้ำหนักของมันที่มากถึง 2 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าหนักสำหรับกระเป๋าเปล่าทั่วไป

Coperni ระบุว่า ผลงานกระเป๋าอุกกาบาตแต่ละชิ้นเป็นงานแฮนด์เมด ดังนั้นรูปร่างอาจแตกต่างจากรูปภาพเล็กน้อย อุกกาบาตจะถูกจัดหามาหลังจากมีการสั่งซื้อกระเป๋าแต่ละครั้ง และอาจมาจากสถานที่ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าอุกกาบาตตกลงมาบนพื้นโลกที่ใด จากนั้นก็จะถูกนำมาแกะสลักด้วยมือและประกอบให้เป็นกระเป๋าในโรงงาน Semar ในอิตาลี

คุณสามารถสั่งซื้อกระเป๋าใบนี้ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของ Coperni เท่านั้น และพวกเขาไม่สามารถคืนเงินให้คุณได้ โดยการจัดส่งกระเป๋าจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ เชื่อว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปัญหา

ยกเว้นเพียงแต่ราคาของมันที่สูงถึง 40,000 ยูโร หรือประมาณ 1.47 ล้านบาท แต่บางแหล่งข้อมูลอ้างว่า ชิ้นส่วนอุกกาบาตที่ถูกนำมาทำเป็นกระเป๋าอาจมีมูลค่าที่สูงกว่านั้นก็เป็นได้

รายการบล็อกของฉัน