Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

โซโคตรา Socotra เกาะแสนประหลาด

โซโคตรา Socotra
เกาะ Socotra ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก แค่ดูจากภาพก็คงจะรู้แล้วว่าทำไม ทิวทัศน์รกร้าง กับต้นไม้รูปร่างหน้าตาแปลกๆ เหมือนกับหลุดออกมาจากดาวดวงอื่น นี่คือธรรมชาติที่น่าตื่นตาของเกาะโดดเดี่ยวที่มีอายุกว่า 6 ล้านปี

เกาะโซโคตร้า 
Socotra Island)   เป็นเกาะเล็กๆในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเกาะที่มีความสวยงามของประเทศเยเมน อยู่ห่างจากประเทศโซมาเลีย 250 กิโลเมตร

โดยเกาะสุดแสนประหลาดแห่งนี้ เป็นเกาะที่มีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ความหลากหลายทางภูมิทัศน์ และยังมีพืนพันธ์ที่ค่อนข้างแปลกตา จึงส่งผลให้เกาะแห่งนี้มีความโดดเด่น และน่าสนใจไม่แพ้เกาะอื่นๆ
เกาะโซโคตร้า เป็นสถานที่รวมแห่งพืชพรรณแปลกประหลาดหลายชนิด 
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้รูปทรงแปลกๆ อย่างต้น “กุหลาบแห่งทะเลทราย 
(Desert Rose) และต้น เลือดมังกร (Dragon’s Blood Tree) ที่ยังมีชีวิตอยู่รอดได้ กับสายพันธ์ที่อายุกว่า 20 ล้านปี ซึ่งยังถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี 

นอกจากนั้น ยูเนสโก (UNESCO) ยังทำการขึ้นทะเบียนให้เกาะโซโคตร้า เป็นมรดกโลกในเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 2008 อีกด้วย
เกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งในสี่ของเกาะที่แยกจากแผ่นดินใหญ่แอฟริกาในช่วง 6 หรือ 7 ล้านปีก่อน เช่นเดียวกับหมู่เกาะกาลาปากอส โดยเกาะนี้อุดมไปด้วยทั้งพืชและสัตว์กว่า 700 ชนิด และกว่า 1 ใน 3 ก็มีลักษณะที่ไม่สามารถพบที่ไหนใน

"ต้นเลือดมังกร" 


ด้วยสภาพอากาศที่รุนแรงทั้ง ร้อนแห้ง แต่ก็น่าประหลาดใจที่มีพืชและสิ่งมีชีวิตที่ยังดำรงอยู่ได้ เกาะโซโคตร้าอยู่ในมหาสมุทรอินเดียห่างจากโซมาเลีย 250 กิโลเมตร ห่างจากประเทศเยเมน 340 กิโลเมตร ชายหาดกว้าง มีถ้ำหินปูนอยู่มากมายและภูเขาที่สูงถึง 1,525 เมตร

Socotra Island)

โรคแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย ที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักเลยก็ได้ เช่นโรคนี้ที่มีชื่อว่า โรคลุดวิก แองไจนา

ทุกๆวันโลกเรา จะมีโรคแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย ที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักเลยก็ได้ เช่นโรคนี้ที่มีชื่อว่า โรคลุดวิก แองไจนา

👉🏿โรคลุดวิก หรือ ลุดวิก แองไจนา (อังกฤษ: Ludwig's angina)) เป็นเซลลูลิทิสรุนแรงรูปแบบหนึ่งที่มีการอักเสบที่ส่วนพื้นของปาก อาจส่งผลต่อความลำบากในการกลืนน้ำและน้ำลาย และอาการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ข้อมูลเบื้องต้น โรคลุดวิก, ชื่ออื่น ...

การบวมของส่วนซับแมนดิบูลาร์ในผู้ป่วยลุดวิกแองไจนา

สาขาวิชาโสตศอนาสิกวิทยา, ศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร

อาการไข้, ปวด, ลิ้นหนา, มีปัญหากับการกลืน, คอบวมโต

ภาวะแทรกซ้อน การกดทับทางหายใจ

การตั้งต้นฉับพลัน ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อในฟัน

วิธีวินิจฉัยตามอาการ, ซีทีสแกน

การรักษายาปฏิชีวนะ, คอร์ติโคสเตอรอยด์, สอดท่อหายใจทางเทรเคีย, ทราเคโอสโตมี

👉🏿กรณีส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามหลังการติดเชื้อในฟัน นอกจากนี้ยังพบกรณีที่เกิดจากหนองพาราฟาริงซ์, การแตกหักของกระดูกแมนดิบูลาร์, แผลในปาก หรือจาก นิ่วน้ำลายซับแมนดิบูลาร์ โรคลุดวิกเป็นผลจากการกระจายของการติดเชื้อในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันผ่านช่องว่างเนื้อเยื่อกับช่องว่างสับลิงกวล

โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการรักษาการติดเชื้อที่ฟัน การรักษาแรกด้วยยาปฏิชีวนะแบบกว้าง และ คอร์ติโคสเตอรอยด์ ในกรณีที่สาหัสอาจต่อท่อหายใจ หรือ ทำทราเคโอสโทมี

ภายหลังการแพร่หลายของยาปฏิชีวนะในทศวรรษ 1940s, การปรับปรุงความสะอาดของช่ิงปากในประชาชน และการรักษาด้วยหัตถการที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาก อัตราเกิดโรคและอัตราเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ชื่อลุดวิกตั้งตามแพทย์ชาวเยอรมัน Wilhelm Frederick von Ludwig ผู้เขียนอธิบายถึงโรคนี้ครั้งแรกในปี 1836

👉🏿ยังดีนะครับที่โรค Ludwig's angina นี้ยังพอมีวิธีการรักษาได้ ป้องกันได้...ไม่เหมือนโรคไวรัสโควิดที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ สารพัดไวรัสติดแล้วติดอีกขนาดฉีดวัคซีน4-5 เข็ม ยังติดไวรัสโควิดได้อีก งงไหมล่ะครับ

วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ตะกวดเหลือง


วันนี้เผอิญไปเจอเรื่องสัตว์นะครับก็เลยอยากมานำเสนอแต่มันเป็นพวกตะกวดนะครับที่มันแปลกก็คือถ้าตะกวดธรรมดามันก็คงไม่แปลกนะครับแต่นี้มันคือตะกวดเหลืองครับYellow monitor 

ตอนนี้มีตะกวดเหลืองอีกสักพักนึงก็ต้องมีตะกวดแดง มันก็เป็นธรรมชาตินะครับ
ก็ต้องมีตรงข้ามกันระหว่างถ้ามีสีเหลืองก็ต้องมีสีแดงถ้ามีสีดำก็ต้องมีสีขาวนะครับ


ตะกวดเหลือง (อังกฤษ: Yellow monitor; ชื่อวิทยาศาสตร์: Varanus flavescens) เป็นสัตว์เลื้อยคลานในวงศ์ตะกวด (Varanidae) ชนิดหนึ่ง


ข้อมูลเบื้องต้น ตะกวดเหลือง, สถานะการอนุรักษ์ ...
มีรูปร่างคล้ายสัตว์ในวงศ์นี้ทั่วไป แต่มีนิ้วเท้าที่สั้น และพื้นลำตัวสีเหลือง อีกทั้งมีพฤติกรรรมไม่ชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือที่ชื้นแฉะเหมือนเหี้ย (V. salvator) โดยจะอยู่เฉพาะที่แห้งแล้งหรือพื้นทราย มีขนาดประมาณ 70-100 เซนติเมตร วางไข่จำนวน 30 ฟอง ใช้เวลาฟักเป็นตัวราว 149-155 วัน


มีรายงานเคยพบในประเทศไทยในภาคใต้และภาคตะวันตกเมื่อนานมาแล้ว สถานภาพปัจจุบันพบมากใน อินเดีย, เนปาล, บังกลาเทศ และปากีสถาน

ยังมีชื่อเรียกอื่น อีก เช่น "แลนดอน" เป็นต้น

ก่อนจะจบบทความนี้นะครับเราก็ได้นำเสนอเรื่องตะกวดเหลืองเป็นสาระความรู้พอประมาณนะครับหวังว่าท่านผู้อ่านคงจะได้รับความรู้มากพอสมควรนะครับ

หนุ่มรัฐเซียฉายาป๊อบอาย กำลังเสี่ยงเสียแขนหลังต้องผ่าตัดเอาก้อนที่ฉีดเข้าแขนออก


หนุ่มรัฐเซียฉายาป๊อบอาย กำลังเสี่ยงเสียแขนหลังต้องผ่าตัดเอาก้อนที่ฉีดเข้าแขนออก

ตัวการ์ตูนป๊อปอายที่มีแขนและมีกล้ามใหญ่โตนะน่ะมันเป็นแค่จินตนาการเพ้อฝันของคนที่สร้างการ์ตูนขึ้นมา


แต่ก็ยังมีคนที่อยู่ในชีวิตจริงอยากมีสรีระแขนกล้ามใหญ่ๆแบบป๊อปอายในการ์ตูนนะครับถึงกับเอาสารเคมีเช่น“ปิโตรเลียมเจลลี”ฉีดใส่เข้าไปเพื่อจะเพิ่มกล้ามให้ดูใหญ่โตมโหฬาร 


แล้วเป็นยังไงล่ะครับผลเสียก็ออกมาว่า“ปิโตรเลียมเจลลี”ที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อนั้นจะทำให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกายด้านลบจนถึงขั้นอาจจะต้องตัดแขนทิ้ง  หรือแขนเน่าพิการงอยเสียแขน 

ดีไม่ดีอาจจะตายได้ด้วยซ้ำนี่จึงเป็นข่าวที่ตามมา ลองมาดูกันนะครับว่านายคนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปแขนจะเน่าไหมจะมีแก้ทางแก้ไขหรือไม่อยากเป็นป๊อปอายแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว


ป๊อบอาย ถือเป็นตัวการ์ตูนที่ผู้ใหญ่ในยุคนี้คุ้นเคยกันดี โดยมีจุดเด่นที่กล้ามแขนของเขา แต่คุณเคยคิดหรือไม่ว่าจะมีใครบนโลกนี้ที่มีป๊อบอายเป็นไอดอล และอยากจะมีกล้ามแขนแบบนั้นจริง ๆ

นี่คือเรื่องราวของ คิริลล์ เทเรชิน หนุ่มชาวรัสเซียวัย 25 ปี ที่ตัดสินใจฉีดก้อน “ปิโตรเลียมเจลลี” ลงไปในแขนของเขาเมื่อหลายปีก่อนเพื่อให้ตัวเองมีกล้ามแขนที่ใหญ่โตมหึมาและดูแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนเขาได้รับฉายาว่า “ป๊อบอายในชีวิตจริง”

แต่ความเท่ของเขากำลังจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะแพทย์ได้ออกมาเตือนคิริลล์ว่าเขามีความเสี่ยงที่จะสูญเสียแขนหรืออาจรุนแรงถึงชีวิต หากเขายังคงเก็บก้อนเจลลีนี้เอาไว้ในแขน


ดิมิทรี เมลนิคอฟ ศัลยแพทย์ชาวรัสเซียได้ออกมาเตือนเขาว่า ความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนกับแขนของเขา

“สารพิษในร่างกายในระยะยาวสามารถส่งผลให้ไตวายจนนำไปสู่การเสียชีวิต” ดิมิทรีกล่าว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดิมิทรีได้ทำการผ่าตัดแก้ไขแขนของเขามาแล้วหลายครั้ง ทั้งการทำความสะอาดสิ่งที่อุดตัน การตัดกล้ามเนื้อที่ตายแล้วออก และระบายของเหลวส่วนเกินที่ทำให้แขนของเขาบวมขึ้นซึ่งเกิดจากสารพิษในร่างกาย

เมื่อปีที่แล้ว คิริลล์กล่าวว่า “ผมอายุแค่ 24 ปี และระบบภูมิคุ้มกันของผมกำลังรับมือกับการอักเสบนี้ แต่ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”


ปัจจุบัน คิริลล์เริ่มตระหนักถึงผลกระทบว่าตนเองอาจสูญเสียแขนไป เขากล่าวว่า “นั่นคือเหตุผลที่ผมเริ่มผ่าตัดเพื่อกำจัดฝันร้ายนี้ ผมทำให้กล้ามแขนโตขึ้นตอนผมอายุ 20 ที่เกิดจากความโง่เขลาของตัวเองโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมา”

คิริลล์ต้องลุ้นไปกับการผ่าตัดในครั้งต่อไป ซึ่งเป็นการผ่าตัดบริเวณกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ โดยมันมีเส้นประสาทที่ละเอียดอ่อนในบริเวณนี้ และถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา เขาอาจไม่สามารถขยับแขนได้อีกต่อไป


ดิมิทรีกล่าวว่า “สารทั้งหมดจะต้องถูกกำจัดออกไป แต่เราจำเป็นต้องรักษาเส้นเลือด เส้นประสาท และระบบการทำงานส่วนอื่น ๆ ของแขนเอาไว้ให้ได้”

“ปิโตรเลียมเจลลีไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการฉีด มันใช้เฉพาะภายนอกเท่านั้น ซึ่งผลที่ตามมาคือเนื้อเยื่อจะตาย และถูกแทนที่ด้วยรอยแผลเป็นที่แข็งเหมือนต้นไม้ คุณสามารถเคาะมันจนได้ยินเสียงได้”

เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนของหนุ่มรัสเซียที่ตัดสินใจทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และถึงแม้เขาจะสำนึกได้ในตอนนี้แต่ดูเหมือนว่ามันก็กำลังจะสายไปเสียแล้ว เหลือแค่เพียงการผ่าตัดครั้งสุดท้ายของเขาว่าจะสามารถทำให้เขากลับมาเป็นคนปกติเหมือนเก่าได้หรือไม่


ปิดท้ายด้วยภาพของคิริลล์ เทเรชิน อดีตนักสู้ MMA ก่อนที่เขาจะฉีดปิโตรเลียมเจลลีเข้าไปในแขน

แบบนี้เขาเรียกว่าอยากเด่นอยากดังหาเรื่องใส่ตัว ผลสุดท้ายอาจจะเสียแขนเสียชีวิตไปก็ได้นะครับอยากเป็นอะไรก็แล้วแต่อย่าเพ้อฝัน...เพราะชีวิตจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยาดกล้ามใหญ่ๆเราต้องออกกำลังกายไม่ใช่เอาอะไรไปฉีดมั่วซั่วผลเสียมันจะเป็นแบบนี้

เส้นผมน้ำแข็งปรากฏการณ์ธรรมชาติหาดูได้ยากที่เกิดขึ้นในฤดูหนาว


ภาพ Hair ice ที่ถ่ายได้ที่ป่าแห่งหนึ่งในแถบเทศมณฑลเฟอร์แมนาห์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้คนในไอร์แลนด์เหนือพากันโพสต์ภาพแฮร์ไอซ์ (Hair ice) หรือ "เส้นผมน้ำแข็ง" ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติหาดูได้ยากที่เกิดขึ้นในฤดูหนาว

ทีมข่าวบีบีซีในไอร์แลนด์เหนือ เผยภาพเส้นผมน้ำแข็งที่ผู้คนถ่ายไว้ได้ขณะออกเดินป่าในแถบเทศมณฑลเฟอร์แมนาห์ (Fermanagh) และเทศมณฑลทิโรน (Tyrone)

เส้นผมน้ำแข็ง มักพบก่อตัวอยู่บนกิ่งไม้ที่ผุพังในคืนที่มีสภาพอากาศชื้นของฤดูหนาว

เมื่อมองเผิน ๆ แฮร์ไอซ์ดูราวกับขนมโรตีสายไหม หรือเส้นใยที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ แต่เมื่อสังเกตใกล้ ๆ ก็จะเห็นเป็นเส้นน้ำแข็งเล็ก ๆ ลักษณะคล้ายเส้นผม หรือเส้นขนสีขาวจำนวนมากเกาะรวมกันเป็นกระจุก

เมื่อเส้นผมน้ำแข็งเหล่านี้ได้สัมผัสกับมือที่อุ่นกว่าของมนุษย์ หรือสัมผัสกับแสงแดดในฤดูหนาว พวกมันก็จะละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

บางครั้งมีการเรียกปรากฏการณ์ที่หาดูยากนี้ว่า "ดอกน้ำค้างแข็ง" (frost flowers)
เส้นผมน้ำแข็ง หรือบางครั้งเรียกว่า "ดอกน้ำค้างแข็ง" (frost flowers) มักพบก่อตัวอยู่บนกิ่งไม้ที่ผุพังในคืนที่มีสภาพอากาศชื้นของฤดูหนาว ช่วงที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเพียงเล็กน้อย

เมื่อปี 2015 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันและชาวสวิสค้นพบว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่ชื่อ Exidiopsis effusa ซึ่งทำให้น้ำแข็งก่อตัวเป็นเส้นเล็ก ๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.01 มิลลิเมตร และอาจมีความยาวได้ถึง 20 เซ็นติเมตร

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่ชื่อ Exidiopsis effusa

The unusual phenomenon has been spotted in a number of sights in Omagh
แฮร์ไอซ์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.01 มิลลิเมตร และอาจมีความยาวได้ถึง 20 เซ็นติเมตร

รายการบล็อกของฉัน