การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ทีมนักโบราณคดีเม็กซิโกขุดพบ “หน้ากากแกะสลัก” จากหินเซอร์เพนทีน (Serpentine-หินสีเขียว) อายุกว่า 2,000 ปี ถูกซ่อนไว้ใต้อุโมงค์บริเวณฐานพิระมิดแห่งดวงอาทิตย์ (The Pyramid of The Sun) ณ เมืองเตโอติอัวกัน ประเทศเม็กซิโก
ย้อนไปในปี 2003 เซอร์จิโอ โกเมซ นักวิจัยชาวเม็กซิโก ได้บังเอิญพบอุโมงค์ลับใต้ฐานพิระมิดแห่งดวงอาทิตย์ ในระหว่างภารกิจศึกษาโครงสร้างโบราณ ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวอยู่ลึกลงไปกว่า 10 เมตร และยาวอีกกว่า 90 เมตร ทีมงานต้องใช้เวลากว่า 8 ปีในการขุดอุโมงค์ เนื่องจากอุดตันเพราะตะกอนดิน แต่ก็คุ้มค่าเพราะภายในเต็มไปด้วยวัตถุโบราณ และที่ดูจะโดดเด่นที่สุดก็คือ “หน้ากากหินสีเขียว”
โดยหน้ากากใบนี้มีขนาดเล็กมาก กว้างเพียง 11.5 ซม. สูง 11 ซม. หนา 7.8 ซม. นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นสมบัติของราชวงศ์แห่งเมืองเตโอติอัวกัน จากการวิเคราะห์มีความเป็นไปได้ว่า อาจถูกใช้เป็นเครื่องเซ่นบูชาก่อนที่จะทำการสร้างพีระมิดแห่งนี้ขึ้น
เซอร์จิโอ โกเมซ พร้อมด้วยทีมนักสำรวจโคเซ ลูบัลคาบา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟิสิกส์นานาชาติ ระบุว่า “เนื่องจากปลายสุดของอุโมงค์พบโครงกระดูกที่อาจเป็นของกษัตริย์แห่งเมืองเตโอติอัวกัน ซึ่งหน้ากากอาจมีต้นแบบมาจากใบหน้าของพระองค์ก็เป็นได้ เพราะเป็นหน้ากากเพียงชิ้นเดียวที่ถูกพบในบริเวณดังกล่าวนั่นเอง”
นอกจากหน้ากากแล้วยังมีวัตถุโบราณต่าง ๆ อีกมาก เช่น มีดสั้น เปลือกหอยแกะสลัก เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประดับต่าง ๆ ทั้งหมดถูกเก็บกู้และนำขึ้นมาบูรณะ ปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาแห่งชาติเม็กซิโก (Museo Nacional de Antropologia)
สำหรับพีระมิดแห่งดวงอาทิตย์ (The Pyramid of Sun) เป็นที่รู้จักในฐานะพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 60 เมตร ฐานแต่ละด้านกว้าง 200 เมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยชื่อของ “พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์” ตั้งขึ้นโดยชาวแอซเท็ก (Aztec) ที่มาพบเข้าเมื่อ 700 ปีก่อน
พิระมิดแห่งดวงอาทิตย์ พร้อมด้วยแท่นบูชายัญอีกมากมาย เชื่อว่าแท่นบูชายัญเหล่านี้ ชาวแอซแท็กเป็นผู้สร้างขึ้นในภายหลัง
.
อารยธรรมแอซเท็ก ขึ้นชื่อเรื่องการบูชายัญบ่อยครั้งที่สุดในโลก ถือกำเนิดขึ้นในช่วง ค.ศ.1325 ณ บริเวณตอนกลางของเม็กซิโกในปัจจุบัน ยังรู้จักกันอีกชื่อว่า ชาวเม็กซิกา (Mexica) เพราะเชื่อว่า พวกเขาคือบรรพบุรุษของชาวเม็กซิโก แต่การมาถึงของชาวสเปนในช่วงปี ค.ศ.1517-1521 ก็ทำให้อารยธรรมแอซเท็กล่มสลายลง
นักโบราณคดีเชื่อว่า ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยรุ่งเรื่องมาก อาจมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 200,000 คน แต่ก็ต้องกลายเป็นเมืองร้างเนื่องจากความแห้งแล้งและภัยสงคราม อย่างไรก็ตาม จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะทราบได้ว่า ประชากรที่เคยอาศัยอยู่คือชนเผ่าใด?
ใครคือผู้สร้างพีระมิด? และเมื่อหลายพันปีก่อน พวกเขาสามารถก่อสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร ? ปริศนาทั้งหมดยังคงรอการเฉลยในอนาคต